อุดมการณ์ทางการเมืองซื้อขายกันไม่ได้ “แต่คนไม่มีอุดมการณ์ซื้อขายได้”

นอกจากสังคมจะช่วยกันประณาม ส.ส. ไร้จุดยืน ไร้อุดมการณ์ ไร้ศักดิ์ศรี ตระบัดสัตย์ ทรยศหักหลังประชาชนแล้ว ควรช่วยกันประณาม พวกที่ใช้เงินทุ่มซื้อตัว ส.ส.เข้าพรรคด้วย พวกนี้เซาะกร่อนบ่อนทำลายประชาธิปไตยที่แท้จริง

วันนี้จะไปขอโทษประชาชนชาวศรีราชา และคงจะได้แวะไปขออภัยร้านอาหารในศรีราชา ที่ติดป้ายไม่ต้อนรับงูด้วย นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนแสดงออกต่อคนที่ทรยศหักหลังคะแนนเสียงของพวกเขา

[ 11 ปีรัฐประหาร 57 ประเทศไทยยังอยู่กับมรดก คสช. ] ในการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเมื่อปี 2566 สังคมไทยยังมีความคาดหวังว่าแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยซึ่งเคยแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร ขจัดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

“อานนท์ นำภา” คนไทยคนแรก ! ได้รับรางวัล Front Line Defenders Award ประจำปี 2025 ที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ _____________________ สำหรับรางวัล Front Line Defenders Award for Human Rights Defenders at Risk ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005)

เป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว นับจากปรากฎการณ์ ตุลาการภิวัตน์ ถึง นิติสงคราม สงครามที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ สงครามที่ดึงตุลาการเข้ามาเล่น(คดี)การเมือง โดยมีอนาคตประเทศ และประชาชนเป็นตัวประกัน #มหากาพย์จำนำข้าว

ผลกระทบด้านลบที่สำคัญที่สุดของระบอบคสช. และรปห 2557 คือ การทำลายนิติรัฐ - กฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อคำ้จุนระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของความอยุติธรรม วิธีเดียวที่จะออกจากภาวะนี้ได้ คือ การรื้อมรดกของการรปห. และปฏิรูปโครงสร้างที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

ทบทวนความเห็นนานาชาติต่อกรณี “พอล แชมเบอร์ส” นักวิชาการสัญชาติอเมริกัน หลังถูกแจ้ง ม.112 ตกอยู่สถานะสูญญากาศทางกฎหมาย กลับบ้านไม่เกิดได้ – ไม่มีงานทำ 📌อ่านบนเว็บไซต์ : tlhr2014.com/archives/75612

ส่วนราชการในพระองค์ตั้งขึ้นมาตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 กฎหมายที่ออกมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติสมัยรัฐบาลทหาร และเริ่มมีการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานมาตั้งแต่ปี 2561 ส่วนราชการในพระองค์มีโครงสร้างองค์กรประกอบด้วย 3 ส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานองคมนตรี

ประเทศที่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกเป็นเรื่องต้องห้าม ประเทศที่ยัดเยียดข้อหา จำขังตัดสิทธิทางการเมือง สะกดให้สยบยอมก้มหน้ารับชะตากรรม ประเทศที่เสรีภาพเป็นเรื่องจอมปลอม ปชช.ถูกปิดปาก ควบคุมกดปราบให้หมอบกราบศิโรราบ สร้างบรรยากาศความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในสังคม

ช้างใหญ่เหยียบย่างอยู่กลางห้อง ข้าวของพังทลายกระจายเกลื่อน ผู้ใหญ่ไม่เห็นช้างดั่งรางเลือน หุบเงียบเชียบเหมือนช้างไม่มี

“อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น อะไรที่เคยเห็นก็จะไม่ได้เห็นอีกต่อไป” นับเป็นคำปรารภแห่งยุคสมัย

ความหลากหลายไม่ได้มีไว้แค่ให้เฉลิมฉลอง แต่มีไว้ให้เราปกป้อง Pride Month ก็ไม่ใช่แค่เดือนแห่งการเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่มันคือ การยืนหยัดเพื่อสิทธิความหลากหลาย เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

ในสถานการณ์ที่กระแสความไม่พอใจต่อนายกฯ ลุกลามอย่างรุนแรง ประเด็นหนึ่งที่ผมอยากชวนคิดคือ ภาวะที่เราไม่พอใจอยู่นี้ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตระกูลชินวัตร แต่มันเป็นผลพวงจากการเมืองของคณะ รปห และชนชั้นนำบางกลุ่มที่ต้องการมีอำนาจเหนือเสียงของประชาชน

แปลง่ายๆก็คือ “เราไม่ออก เธอนั่นแหละที่ต้องลาออก” ขืนเพื่อไทยยังยื้อต่อไป มีแต่จะเสียหายรุนแรง ย่อยยับ ท้ายที่สุดรัฐบาลอาจจะไม่เหลือทางเลือกใดให้เลือกเลยนอกจาก “ยุบสภา” คืนอำนาจให้ประชาชน

พรุ่งนี้จะยังมีรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ พท.=ไปต่อ กธ.=อยู่ต่อ ปช.=อยู่ต่อ ชทพ.=อยู่ต่อเพราะข้อมูลยังไม่ครบถ้วน รทสช.=ให้พีรพันธุ์คุยนายก(รับได้หากเปลี่ยนนายก) ปชป.=อยู่ต่อ “ยุบสภาหรือลาออก”ล้วนมีต้นทุนที่ต้องจ่ายแต่การเจรจาล็อบบี้กันตอนนี้ทุกฝ่ายเอาแต่ได้ไม่มีปชช.อยู่ในสมการเลย

การลาออกไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการสร้างปัญหาให้สถานการณ์การเมืองที่สั่นคลอนรุนแรงอยู่แล้วมีแนวโน้มจะแย่หนักกว่าเดิม อาจจะได้สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์กลับมาเป็นนายก การแก้ปัญหาเช่นนี้จึงไม่ใช่ทางออกของประเทศไม่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชน แต่เป็นการแก้ปัญหาให้ตนเองและพวกพ้องเท่านั้น